สมัยก่อน “บอระเพ็ด” นิยมปลูก เฉพาะตามบ้านหมอยาไทย ปัจจุบัน มีปลูกตามสวนสมุนไพร กับปลูกเพื่อตัดเถาขายเพียงไม่กี่แห่ง จึงทำให้ดูเหมือนว่า “บอระเพ็ด” หายาก ซึ่ง “บอระเพ็ด” มีชื่อ วิทยาศาสตร์ว่า TINOSPORA CRISPA (L.) MIERS EX.HOOK. F.ET THOMS. อยู่ในวงศ์ MENISPER-MACEAE เป็นไม้เถาเลื้อยโตประมาณนิ้วชี้มือผู้ใหญ่ เถาเป็นปุ่มโป ขรุขระตลอดเถา ใบกลมโตประมาณ 3 นิ้วฟุต ปลายแหลมคล้ายใบ ชิงช้าชาลี หรือใบ กระทุ้งหมาบ้า ต้นหรือเถาสามารถเลื้อยได้ไกลกว่า 10 เมตร เป็นไม้ที่แตกต้นง่าย เพียงตัดเถาแขวนไว้ตามคบไม้จะเกิดรากเป็นเส้นเล็กๆ ทิ้งรากห้อยลงสู่พื้นดินและเจริญงอกงามขึ้นได้ ดอก เป็นสีเหลือง ออกเป็นช่อตามเถา “ผล” กลม ขนาดเล็ก มีเมล็ด
ตำรายาไทย ใช้ เถา เป็นยาแก้ไข้ ขับเหงื่อ แก้กระหายน้ำ แก้ร้อนใน โดยเอา เถาสดยาว 2 คืบครึ่งมือผู้ใหญ่หรือ 30-40 กรัม ต้มกับน้ำเยอะหน่อยจนเดือด ใช้ผ้าขาวบางกรองบีบเอาน้ำ หรือต้มเคี่ยวกับน้ำ 3 ส่วน ดื่มก่อนอาหารวันละ 2 เวลา เช้าเย็น หรือตอนมีไข้และ น้ำดังกล่าว ยังใช้เป็นยาขม ช่วยเจริญอาหาร ได้อีกด้วย
นอกจากนั้น เถา “บอระเพ็ด” กับเนื้อไม้ต้น พญามือเหล็ก และเนื้อไม้ของต้น เสนียด ทั้งหมดเป็นแบบแห้งเหมือนกัน น้ำหนักอย่างละ 5 บาท เท่ากัน (อัตราชั่งของยาแผนไทย) บดรวมกันให้ละเอียดแล้วบรรจุใส่แคปซูล กินหลังอาหารครั้งละ 3 แคปซูล วันละ 2 เวลา เช้ากลางวันติดต่อกัน 5–10 วัน จะช่วยบรรเทาอาการปวด “ไมเกรน” ดีมาก สามารถทำรับประทานได้เรื่อยๆไม่มีอันตรายอะไร
บอระเพ็ดยังสามารถนำไปทำน้ำหมักสมุนไพรกำจัดโรค แมลงในพืชที่มีประสิทธิภาพ ราคาถูก